นโยบายการดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน
นโยบายการใช้ข้อมูลภายใน และการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์
(Internal Data Usage and Conflict of Interest Prevention Policy)
การใช้ข้อมูลภายในเพื่อแสวงหาผลประโยชน์
บริษัทฯ กำหนดแนวปฏิบัติที่ดีเรื่องการรักษาความลับ การเก็บรักษาข้อมูล และการใช้ข้อมูลภายใน เพื่อให้บุคลากรของบริษัท ถือปฏิบัติ โดยต้องรักษาข้อมูลภายในหรือข้อมูลความลับของบริษัท ที่ยังไม่เปิดเผยสู่สาธารณะไว้เป็นความลับ และต้องไม่นำข้อมูลภายในที่ตนล่วงรู้มาจากการปฏิบัติหน้าที่ของตนไปบอกผู้อื่น หรือนำข้อมูลภายในไปใช้แสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบเสียเอง หรือทำให้ประโยชน์ของบริษัทลดลง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ประกาศนโยบายห้ามคณะกรรมการ ผู้บริหาร และผู้เกี่ยวข้องกับข้อมูลใช้ข้อมูลภายในโดยมิชอบ (Insider Trading) โดยให้หลีกเลี่ยงการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท หากมีความจำเป็นต้องซื้อขายหลักทรัพย์บริษัทจะต้องแจ้งเลขานุการบริษัทล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ทั้งนี้ จะมีการแจ้งเตือนช่วงเวลาห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท (Blackout Period) และช่วงเวลาการห้ามให้ข้อมูลหรือตอบข้อซักถามที่เกี่ยวข้องกับงบการเงินหรือคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัท (Quiet Period) เป็นระยะเวลา 30 วัน ก่อนการเผยแพร่งบการเงินผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทฯ มีการติดตามเพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามนโยบายและแนวปฏิบัติเรื่องการใช้และการรักษาความลับของข้อมูลภายในที่กำหนดไว้ในจรรยาบรรณธุรกิจ โดยดูแลการปฏิบัติงานจัดทำสื่อการเรียนรู้และแบบทดสอบเกี่ยวกับนโยบายและแนวปฏิบัติเรื่องการใช้และการรักษาความลับของข้อมูลภายใน ในรูปแบบ E-learning เพื่อให้กรรมการ ผู้บริการ และพนักงาน ทบทวนความรู้ความเข้าใจแนวปฏิบัติสำคัญที่ต้องถือปฏิบัติ เนื้อหาอบรมนำเสนอคำนิยามและตัวอย่างข้อมูลความลับและข้อมูลภายในของกลุ่มบริษัท รวมทั้งแนวปฏิบัติในการใช้ การรักษา และการเปิดเผยข้อมูลความลับและข้อมูลภายใน ตลอดจนบทลงโทษเมื่อมีการฝ่าฝืนแนวปฏิบัติในกรณีต่างๆ เช่น การซื้อหลักทรัพย์ โดยใช้ข้อมูลภายใน การเปิดเผยข้อมูลความลับของบริษัทแก่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องหรือการนำข้อมูลภายในไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวเป็นต้น โดยกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของกลุ่มบริษัท ร้อยละ 100 เข้ารับการทบทวนนโยบายและแนวปฏิบัติเรื่องการใช้และรักษาความลับของข้อมูลภายในผ่านสื่อการเรียนรู้ดังกล่าว
ทั้งนี้ ตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา กรรมการและผู้บริหารไม่มีการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทในช่วงเวลาดังกล่าวและไม่มีการปฏิบัติที่ฝ่าฝืนนโยบายดังกล่าว แต่อย่างใด
นโยบายการดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน
การป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์
บริษัทฯ กำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลรายการขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับบริษัทฯ เพื่อป้องกันกิจกรรมที่อาจเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน กิจกรรมที่ผิดกฎหมายและไม่เหมาะสม โดยคณะกรรมการบริษัท ได้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์บนหลักการที่ว่าการตัดสินใจใดๆ ของบุคลากรทุกระดับในการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ จะต้องทำเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท เท่านั้น และถือเป็นหน้าที่ของบุคลากรทุกระดับที่ต้องตรวจสอบตนเองอยู่เสมอว่ามีส่วนได้ส่วนเสียหรือผลประโยชน์ขัดต่อกันในการปฏิบัติงานหรือไม่ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการมีส่วนได้เสีย เช่น การกำหนดให้บุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวโยงกับรายงานที่พิจารณา ต้องแจ้งให้บริษัทฯ ทราบถึงความสัมพันธ์หรือความเกี่ยวโยงของตนในรายการดังกล่าว และต้องไม่เข้าร่วมการพิจารณาตัดสิน รวมถึงบริษัทฯ จะต้องดำเนินการให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องไม่มีอำนาจอนุมัติหรือเกี่ยวข้องกับธุรกรรมนั้นๆ โดยในปี 2567 บริษัทฯ มีการติตตามเพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามแนวปฏิบัติในเรื่องการมีส่วนได้เสียและความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่กำหนดไว้ในจรรยาบรรณธุรกิจ และดูแลการปฏิบัติงานจัดทำสื่อการเรียนรู้และแบบทดสอบเกี่ยวกับนโยบายและแนวปฏิบัติเรื่องการใช้และการรักษาความลับของข้อมูลภายใน ในรูปแบบ E-learning เพื่อให้กรรมการ ผู้บริการ และพนักงาน ทบทวนความรู้ความเข้าใจแนวปฏิบัติสำคัญที่ต้องถือปฏิบัติ โดยเนื้อหาอบรมได้อธิบายและนำเสนอตัวอย่างสถานการณ์ การกระทำหรือความสัมพันธ์ที่เข้าข่ายการมีส่วนได้เสียหรืออาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่างประโยชน์ส่วนตัวของกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน กับประโยชน์ของกลุ่มบริษัท รวมทั้งแนวปฏิบัติที่ควรดำเนินการเมื่อเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์หรือการมีส่วนได้เสียในแต่ละกรณี ตลอดจนแจ้งหน้าที่ของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานในการเปิดเผยรายงานการมีส่วนได้เสียของตนตามแนวปฏิบัติกลุ่มบริษัท โดยโดยกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของกลุ่มบริษัท ร้อยละ 100 เข้ารับการทบทวนนโยบายและแนวปฏิบัติเรื่องการใช้และรักษาความลับของข้อมูลภายในผ่านสื่อการเรียนรู้ดังกล่าว