การกำหนดค่าตอบแทนผู้บริหารและการถือครองหลักทรัพย์

การกำหนดค่าตอบแทนผู้บริหารและการถือครองหลักทรัพย์

การวัดผลการดำเนินงานของผู้บริหาร (CEOs & Executives Performance and KPIs)

บริษัทฯ กำหนดตัวชี้วัดผลปฏิบัติงาน (KPIs) ในระสั้นและระยะยาว ซึ่งเป็นเกณฑ์ในการประเมินผลปฏิบัติงานของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารระดับสูง โดยประกอบด้วยตัวชี้วัดผลปฏิบัติงาน ได้แก่ สร้างการเติบโตให้กับองค์กรอย่างต่อเนื่องในทุกปี โดยกำหนดตัวชี้วัดเป็นผลลัพธ์ด้านการเงิน ยอดขาย และกำไรสุทธิ รวมถึงกำหนดอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ อย่างเหมาะสม พัฒนาฐานลูกค้าเก่า ลูกค้าใหม่ ขยายการลงทุนสร้างเครือข่ายเพื่อให้บริการครอบคลุมและสอดคล้องความต้องการลูกค้า โดยกำหนดตัวชี้วัดเป็นอัตราการรักษาและสร้างความผูกพันธ์ของลูกค้าที่ใช้บริการอย่างยาวนาน (Customer Loyalty) และดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดตัวชี้วัดเป็นความพึงพอใจของลูกค้า คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจความสำเร็จของตัวชี้วัดผลปฏิบัติงานเหล่านี้ สะท้อนถึงค่าตอบแทนระยะสั้นและระยะยาวสำหรับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารระดับสูง ซึ่งบริษัทฯ มีความโปร่งใสและกระบวนการที่เหมาะสมในการพิจารณาค่าตอบแทน โดยค่าตอบแทนระยะสั้นประกอบด้วย เงินเดือน โบนัส และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ส่วนค่าตอบแทนระยะยาว จะมอบให้แก่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารระดับสูง ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งภายใน 5 ปี

การกำหนดค่าตอบแทนผู้บริหาร (Executive Compensation)

ค่าตอบแทนรวมของประธานเจ้าหน้าที่บริหารและ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ตามนิยาม ก.ล.ต. (จำนวน 6 ราย)
สำหรับปี 2566

ค่าตอบแทน จำนวนเงิน (บาท)
ค่าตอบแทนรวม 30,095,888
โบนัส 5,576,943
รวม 35,672,831

หมายเหตุ :
– (1) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  (2) กรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ (3) กรรมการผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนองค์กร (4) ผู้อำนวยการ ฝ่ายบัญชีการเงิน  (5) ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาลูกค้า (ุุ6)ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน
– ค่าตอบแทนรวมได้รวมค่าตอบแทนผู้บริหารในฐานกรรมการบริษัทแล้ว

การถือครองหลักทรัพย์ (Stocks Holding of Executives)

บริษัทฯ มีนโยบายให้กรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของบุคคลดังกล่าว (ถ้ามี) ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเป็นรายไตรมาส  โดยกรรมการหรือผู้บริหาร หรือผู้เกี่ยวข้องต้องแจ้งให้เลขานุการบริษัท หรือผู้ที่คณะกรรมการมอบหมาย ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันก่อนการซื้อขายหลักทรัพย์ และให้นำส่งสำเนาแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (แบบ 59) ให้แก่สำนักเลขานุการบริษัท  เพื่อรวบรวมและนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท

และบริษัทฯ มีนโยบายกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท และการห้ามให้ข่าวของกรรมการและผู้บริหาร (Quiet Period) รวมถึงพนักงานบริษัท เพื่อให้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CGR) เกี่ยวกับเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน (Insider Trading) ในช่วงระยะเวลาที่มีการเปิดเผยงบการเงินและข้อมูลซึ่งอาจมีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ของบริษัทช่วงระยะเวลาห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์บริษัท เป็นเวลา 30 วันก่อนการประกาศงบการเงินรายไตรมาสหรืองบการเงินประจำปี

รายงานการถือหลักทรัพย์ของกรรมการและผู้บริหาร
ทั้งทางตรงและทางอ้อม  ปี 2565 และ ปี 2566

ลำดับ รายชื่อ ประเภทหลักทรัพย์ การถือครองหลักทรัพย์
31 ธันวาคม 2565 เพิ่มขึ้น / (ลดลง) ระหว่างปี 31 ธันวาคม 2566
1 นายเอกพล พงศ์สถาพร หุ้นสามัญ 145,000 (145,000) ไม่มี
คู่สมรส/บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หุ้นสามัญ ไม่มี ไม่มี ไม่มี
2 ศาสตราจารย์ ดร. รุธิร์ พนมยงค์ หุ้นสามัญ ไม่มี ไม่มี ไม่มี
คู่สมรส/บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หุ้นสามัญ ไม่มี ไม่มี ไม่มี
3 นายกมล รุ่งเรืองยศ หุ้นสามัญ ไม่มี ไม่มี ไม่มี
คู่สมรส/บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หุ้นสามัญ ไม่มี ไม่มี ไม่มี
4 นายบุญเกรียง ธนาพันธ์สิน หุ้นสามัญ ไม่มี ไม่มี ไม่มี
คู่สมรส/บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หุ้นสามัญ ไม่มี ไม่มี ไม่มี
5 ดร.อารยา คงสุนทร หุ้นสามัญ 126,978,780 150,000 127,128,780
คู่สมรส/บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หุ้นสามัญ คู่สมรสกรรมการ
6 นายชูเดช คงสุนทร หุ้นสามัญ 86,939,320 1,360,680 88,300,000
คู่สมรส/บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หุ้นสามัญ คู่สมรสกรรมการ
7 นางสาวฐิติมา ตันติกุลสุนทร หุ้นสามัญ 56,857,280 ไม่มี 56,857,280
คู่สมรส/บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หุ้นสามัญ ไม่มี ไม่มี ไม่มี
8 นางสาวบุศรินทร์ ต่วนชะเอม หุ้นสามัญ 200,000 ไม่มี 200,000
คู่สมรส/บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หุ้นสามัญ ไม่มี ไม่มี ไม่มี

หมายเหตุ :

  • ในปี 2566 เลขานุการบริษัทได้แจ้งช่วงระยะเวลาห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ (Blackout Period) ล่วงหน้าให้บุคคลที่เกี่ยวข้องรับทราบ  และ ไม่พบว่ากรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานที่เกี่ยวข้องมีการซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วงที่บริษัท กำหนดให้งดการซื้อขาย
  • กรรมการและผู้บริหารมีการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทรวมทั้งสิ้น 35 ครั้ง และจากการตรวจสอบพบว่ามีการปฏิบัติตามที่นโยบายของบริษัทฯ กำหนดไว้ถูกต้อง ครบถ้วน