WICE แนวโน้ม Q2 ทำนิวไฮเปิดคลังสินค้าใหม่ ตั้งเป้ารายได้ปี 64 โต 20%

WICE คาด Q2/64 ทำนิวไฮต่อเนื่อง เพิ่มปริมาณบริการขนส่งธุรกิจหลัก 4 กลุ่ม วางแผนขยายกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมหลากหลาย เตรียมเปิดคลังสินค้าใหม่รองรับงานกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มั่นใจเป้ารายได้ปี 64 เติบโต 20%

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยถึงแนวโน้มการดำเนินธุรกิจใน Q2/64 คาดว่าจะทำนิวไฮต่อเนื่อง เนื่องจากมีแนวโน้มปริมาณงานขนส่งทุกประเภทของธุรกิจหลัก 4 กลุ่ม ทั้งการขนส่งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และคลังสินค้า มากขึ้นตามความต้องการใช้งานโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้นโดยตลาดประเทศจีนมีแนวโน้มปริมาณงานสูงขึ้นจากการนำเข้าและส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆโดยเฉพาะการขนส่งทางอากาศของอุปกรณ์กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสินค้าหลักในการขนส่งของบริษัทยังมีดีมานด์ต่อเนื่องและมีมาร์จิ้นที่สูง

โดยบริษัทเตรียมเพิ่มปริมาณงานบริการทุกประเภท พร้อมแผนขยายฐานลูกค้าไปยังอุตสาหกรรมหลากหลายที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จากการรองรับ 5G ที่ขยายตัวมากในเอเชีย และกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจากความต้องการเพิ่มขึ้น หลังค่ายรถยนต์ปรับโมเดลใหม่ รองรับระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีการขยายตัวไปยังตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีความต้องการการขนส่งสินค้ากลุ่ม Home Appliance มากขึ้น หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศมีแนวโน้มคลี่คลาย  ตลอดจนอัดงบประมาณช่วยฟื้นฟูตลาดงาน มุ่งหน้าสู่การฟื้นฟูประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจเต็มที่

ส่วนธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดน (Cross Border Services) ยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้บริษัททยอยลงทุนสั่งซื้อตู้คอนเทนเนอร์เพิ่ม 200 ตู้ ซึ่งปัจจุบันทยอยรับมอบตู้แล้วกว่า 100 ตู้  และคาดว่าจะรับมอบครบภายในกลางปีนี้ เพื่อรองรับต่อความต้องการที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น ให้บริการทั้งการขนส่งแบบเต็มตู้ (Full truck load) ซึ่งเป็นการส่งสินค้าจากโรงงานเต็มคันรถ ตรงไปให้ลูกค้าแต่ละราย โดยสินค้าจะไม่ผ่านคลังสินค้าหรือศูนย์กระจายสินค้าและไม่มีการเปลี่ยนถ่ายยานพาหนะระหว่างทาง มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านเวลาและด้านต้นทุน และการขนส่งแบบไม่เต็มตู้ (Less truck load) หรือการบรรทุกแบบไม่เต็มคันรถ สำหรับสินค้าที่มีปริมาณไม่มาก  โดยให้บริการขนส่งแบบ Door-to-Door ไปยังประเทศปลายทางในแถบอินโดจีน

สำหรับ WICE Supply Chain Solutions Co.,Ltd. (บริษัทย่อย) ให้บริการด้าน Supply Chain ครบวงจร ทั้งงานคลังสินค้า การกระจายสินค้า การขนส่งสินค้า (Equipment) ขนาดใหญ่ มีแนวโน้มที่ดี จากการขยายตัวของปริมาณงานบริหารจัดการคลังสินค้า และการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการเตรียมเปิดคลังสินค้าให้เช่าแห่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายงานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ในอนาคต โดยคลังสินค้าดังกล่าวจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมใช้งานในช่วงไตรมาส 2 นี้ จากอานิสงส์ลูกค้าจีนที่ได้ย้ายฐานการผลิตเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันยังมีลูกค้าที่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

แม้ในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย แต่บริษัทมีการบริหารจัดการ งานขนส่งโลจิสติกส์ตามความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาส1/64 เป็นที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้จำนวนลูกค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการขยายตลาดในจีนและสหรัฐฯ ประกอบกับแผนการดำเนินงานที่ได้วางไว้ เชื่อมั่นว่าในช่วงไตรมาส 2/64 ผลประกอบการจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลประกอบการทั้งปีเติบโต 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน)

ดันลูกเข้าเทรดmai

ด้านความคืบหน้าการนำบริษัท บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด หรือ ETL บริษัทย่อยเข้าเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบัน ได้แต่งตั้ง บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจ ตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในปี 2565 ตามแผน

Q2 โตเกินคาดเล็งปรับเป้า

บริษัทเตรียมพิจารณาการเติบโตของรายได้ใหม่ในช่วงหลัง Q2/2564 เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตน่าจะมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ จากเดิมคาดว่าจะเติบโตประมาณ 15-20% หรือประมาณ 4,800 ล้านบาท โดยคาดว่า Q2/2564 ผลงานจะทำนิวไฮต่อเนื่อง เนื่องจากมีแนวโน้มปริมาณงานขนส่งทุกประเภทของธุรกิจหลัก 4 กลุ่ม ทั้งการขนส่งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และคลังสินค้า มากขึ้นตามความต้องการใช้งานโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 1/ 64  มีรายได้รวม 1,287.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 656.62 ล้านบาท จำนวน 630.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 96.06% และมีกำไรสุทธิ 81.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ  30.27 ล้านบาท จำนวน51.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 169.58% 

ข้อมูลจาก: Finance Insurtech