การนำเข้าสินค้าจากจีนสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ อาจเป็นเรื่องเสี่ยงที่จะเริ่มต้นนำเข้าด้วยตนเอง ด้วยประเทศจีนเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 1 ของโลก จึงทำให้จีนเป็นประเทศที่มีการผลิตสินค้าที่หลากหลาย มีราคาไม่แพง ซึ่งในประเทศไทยนั้นก็ได้มีการนำเข้าสินค้าจากจีนเข้ามาขายเป็นจำนวนมาก

โดยพื้นฐานของการทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนนั้น หลัก ๆ คือ การควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการนำเข้าให้น้อยที่สุด เพื่อทำกำไรได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม การนำเข้าจากจีนอาจมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ซับซ้อน และมีค่าใช้จ่ายสูงหากไม่มีประสบการณ์ในการนำเข้ามาก่อน กำไรที่คาดหวังอาจจะถูกหักลบด้วยเวลาการขนส่งที่ยาวนาน ค่าใช้จ่ายในการจัดส่งที่เพิ่มขึ้น หรือการผันผวนค่ากฎระเบียบและความล่าช้าอื่น ๆ ที่ไม่อาจคาดคิดได้ วันนี้ WICE จึงมี 5 เคล็ดลับในการนำเข้าสินค้าจากจีนสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ สิ่งสำคัญที่ต้องทำการศึกษาทั้ง 5 ด้าน และผู้ประกอบการควรรู้ มีดังต่อไปนี้

1. ตั้งเป้าหมาย เพื่อคำนวณต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มยอดขาย การนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายในประเทศไทยนั้น จะต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับต้นทุน ซึ่งเป็นปัจจัยที่มือใหม่ควรจะพิจารณาและศึกษาให้ดี เพราะต้นทุนของสินค้านำเข้าจากจีนจะเป็นหัวใจหลักของการขาย และจะต้องมีความเข้าใจในต้นทุนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนสินค้าที่นำเข้ามาจากจีน ต้นทุนการขนส่ง การเสียภาษีต่าง ๆ เพื่อป้องกันการขาดทุน และเพิ่มยอดขาย
2. ศึกษากฎ กติกา และข้อปฏิบัติในการนำเข้าสินค้าภายในประเทศ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าที่ต้องการนำเข้า ได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยแต่ละประเทศมีสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต้องห้ามที่แตกต่างกัน ดังนั้น ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าสินค้าที่จะนำเข้ามาในราชอาณาจักรนั้น อยู่ภายใต้การอนุญาต ข้อจำกัด หรือข้อบังคับใด ๆ หรือไม่ ในกรณีของการนำเข้าสินค้าที่ไม่ปลอดภัย หรือไม่เป็นไปตามข้อกำหนด อาจทำให้ต้องเสียค่าปรับ หรือ สินค้าดังกล่าวอาจถูกควบคุมและอาจถูกทำลายได้ จึงควรศึกษาเรื่องกฎหมายนำเข้าสินค้าของประเทศต่าง ๆ ให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดหรือทำให้เกิดการยึดสินค้าจากกรมศุลกากร
3. ศึกษาเกี่ยวกับการเสียภาษีนำเข้า การความรู้เกี่ยวกับการจัดการการนำเข้าของสินค้า จะทำให้การดำเนินการเกี่ยวกับข้อปฏิบัติเกี่ยวข้องกับภาษีกรมศุลกากรและภาษีนำเข้า และการตรวจสอบและอนุมัติการนำเข้าสินค้าเข้ามายังในประเทศได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว นอกจากนี้ หากต้องการใช้บริการกับตัวแทนขนส่งหรือ Freight Forwarder จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการขอหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า Form E เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีนำเข้าจากจีน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Incoterms 2020 เพื่อลดความเสี่ยง และคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนที่จะนำเข้าสินค้า เช่น เทอม FOB, ค่าจัดส่งจาก Freight Forwarder, ค่าธรรมเนียมผ่านพิธีการศุลกากร เป็นต้น
4. เข้าใจและศึกษาตัวสินค้าให้ดี หลังจากที่ผู้ประกอบการศึกษาตลาดและเลือกสินค้านำเข้าจากจีนที่เป็นที่ต้องการของตลาดได้แล้ว ก็ต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าต่าง ๆ เป็นพิเศษ เพราะหากไม่มีความเข้าใจในสินค้าหรือไม่รู้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้านั้น ๆ สินค้าชนิดนั้น ก็จะไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้
5. เลือกบริษัทโลจิสติกส์ที่ดี เชี่ยวชาญในการขนส่งสินค้าระหว่างไทย-จีน ในการนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทยนั้น ต้องมีระบบขนส่งสินค้าที่รัดกุม เพราะหากมีระบบขนส่งเกิดข้อผิดพลาด แถมยังเป็นมือใหม่ที่เพิ่งรับนำเข้าสินค้าจากจีน อาจเกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร ขั้นตอนในการขนส่ง ขั้นตอนในการดำเนินการพิธรการศุลกากร เป็นต้น ซึ่งหากมีบริษัทโลจิสติกส์ที่ดีก็จะช่วยให้การนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าแบบ Door-to-Door หรือการขนส่งจนถึงหน้าประตูโรงงานของลูกค้า ด้วยบริษัทขนส่งสินค้าจะจัดการเรื่องการเสียภาษีต่าง ๆ ตลอดจนนำสินค้ามาส่งให้ถึงที่หมายได้อย่างง่ายดาย

การเลือกผู้ให้บริการขนส่งให้ตรงกับความต้องการนั้นต้องพิจารณาอะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการให้บริการ ความเชี่ยวชาญของผู้ให้บิรการ การติดตามความเคลื่อนไหวของการขนส่งสินค้าได้ตลอด ในกรณีที่เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า ต้องให้คำตอบได้อย่างชัดเจน โดย WICE นั้นมีการให้บริการขนส่งครบวงจร สาขาที่ประเทศจีนเพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้า และยังสามารถติดตามสถานการณ์ขนส่งสินค้าของตัวเองได้ตลอด 24 ชม. ผ่านช่องทางออนไลน์