Carbon Offsetting vs. Carbon Insetting: แบบไหนตอบโจทย์ธุรกิจอย่างยั่งยืนมากกว่ากัน

  1. บทความ
  2. Carbon Offsetting vs. Carbon Insetting: แบบไหนตอบโจทย์ธุรกิจอย่างยั่งยืนมากกว่ากัน

Carbon Offsetting vs. Carbon Insetting: แบบไหนตอบโจทย์ธุรกิจอย่างยั่งยืนมากกว่ากัน

6 Apr 2025

ในยุคที่เทรนด์ธุรกิจกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนและการใช้พลังงานสะอาดที่เพิ่มมากขึ้น หลายองค์กรต่างมองหาวิธีลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หนึ่งในประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงบ่อยครั้งคือการเปรียบเทียบระหว่าง Carbon Offsetting และ Carbon Insetting ซึ่งแม้ทั้งสองแนวทางจะมีเป้าหมายเดียวกันคือการลดการปล่อยคาร์บอน แต่ก็มีความแตกต่างในเชิงวิธีการ ผลกระทบ และความสอดคล้องกับกลยุทธ์ความยั่งยืนในระยะยาว

 

Carbon Offsetting คือการชดเชยการปล่อยคาร์บอนของธุรกิจโดยการลงทุนในโครงการด้านสิ่งแวดล้อมที่อยู่นอกเหนือจากการดำเนินงานขององค์กร เช่น โครงการปลูกป่า หรือโครงการพลังงานหมุนเวียนในพื้นที่อื่น ๆ หรือแม้แต่การซื้อคาร์บอนเครดิตจากองค์กรอื่นก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการ Offsetting เช่นเดียวกัน แม้วิธีนี้จะถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย และมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน แต่ก็มักจะเป็นที่ถกเถียงว่าอาจทำให้บางบริษัทชดเชยไปเรื่อย ๆ แทนการลงมือเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง หรือยังคงปล่อยคาร์บอนในกระบวนการเดิมโดยไม่ปรับปรุงการดำเนินงานภายในให้ยั่งยืนมากขึ้น

ในขณะที่ Carbon Insetting มุ่งเน้นการลดการปล่อยคาร์บอนภายในห่วงโซ่คุณค่าของบริษัทเอง เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานในระบบโลจิสติกส์ การสนับสนุนเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟูในกลุ่มซัพพลายเออร์ หรือการเปลี่ยนไปใช้ยานพาหนะที่ปล่อยคาร์บอนต่ำในระบบขนส่งของตนเอง ซึ่งแม้ว่าการทำ Carbon Insetting จะต้องใช้เงินลงทุนมากกว่าและต้องอาศัยความร่วมมือในระดับสูง แต่ผลลัพธ์จะชัดเจนและมีผลกระทบเชิงบวกในระยะยาว อีกทั้งยังตอบโจทย์เป้าหมาย ESG และความคาดหวังจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างแท้จริง

 

แล้วแบบไหนเหมาะกับธุรกิจคุณมากที่สุด คำตอบของคำถามนี้จะขึ้นอยู่กับเป้าหมายและระดับความพร้อมขององค์กรในด้านความยั่งยืน โดยในช่วงเริ่มต้น การทำ Carbon Offsetting อาจเป็นทางเลือกที่ง่ายและสะดวกในช่วงแรก แต่เมื่อองค์กรมีความพร้อมและต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง Carbon Insetting จะเป็นหนทางที่มีความน่าเชื่อถือและและมีประสิทธิภาพในระยะยาวที่มากกว่า โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคและนักลงทุนให้ความสำคัญที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับการลงมือทำจริงมากกว่าการชดเชยแบบผิวเผิน ซึ่งทางเลือกที่ดีที่สุดคือ การผสมผสานทั้งสองแนวทางเข้าด้วยกันลดการปล่อยคาร์บอนจากต้นทางด้วย Insetting และใช้ Offsetting เฉพาะในส่วนที่ยากต่อการลดจริง ๆ