1. ส่งเสริมการใช้วัสดุที่รีไซเคิลหรือย่อยสลายได้: แนะนำและสนับสนุนให้ลูกค้าและคู่ค้าใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เพื่อลดขยะที่ส่งไปยังหลุมฝังกลบ
2. ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้: ใช้ลัง พาเลท หรือภาชนะที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ในการขนส่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียว
3. ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพ: ร่วมมือกับลูกค้าเพื่อลดการใช้บรรจุภัณฑ์เกินความจำเป็น โดยเลือกขนาดที่เหมาะสมและวัสดุที่แข็งแรงแต่ไม่เปลือง
4. กำหนดขนาดบรรจุภัณฑ์ให้เป็นมาตรฐาน: สนับสนุนการใช้ขนาดบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเรียงสินค้าและลดช่องว่างภายในพาหนะขนส่ง
5. ร่วมมือในห่วงโซ่อุปทาน: ประสานงานกับซัพพลายเออร์ ผู้ส่งสินค้า และลูกค้า เพื่อกำหนดแนวทางบรรจุภัณฑ์ร่วมกัน ลดความซ้ำซ้อน และจัดการขยะได้ดีขึ้น
6. ใช้เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ: ใช้ระบบอัตโนมัติหรือเครื่องมือ AI เพื่อแนะนำขนาดบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม และลดการใช้วัสดุเกินจำเป็น
7. ให้บริการระบบรับคืนบรรจุภัณฑ์ (Reverse Logistics): จัดระบบให้ลูกค้าสามารถส่งคืนบรรจุภัณฑ์ เช่น กล่องหรือภาชนะ เพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้
8. ให้ความรู้แก่พนักงานและลูกค้า: ฝึกอบรมพนักงาน และให้ข้อมูลแก่ลูกค้าเกี่ยวกับแนวทางการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการลดขยะ
9. ติดตามและรายงานข้อมูลขยะจากบรรจุภัณฑ์: เก็บข้อมูลเกี่ยวกับขยะบรรจุภัณฑ์ ตั้งเป้าหมาย และใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง