5 เรื่องควรทราบก่อน ทำธุรกิจ นำเข้า-ส่งออก
1. ไม่ทันแล้ว..! เปลี่ยนจากเรือเป็นเครื่องบินทันมั้ย!
ทันนะครับถ้ายังไม่ได้ทำพิธีการศุลกากรขาออกไปแล้ว หรือทำพิธีการไปแล้วก็อาจจะยังทัน(ยากมาก) แต่ค่าใช้จ่ายโคตรมหาโหด 3-10 เท่าจะรับไหวหรือเปล่า? อาจจะกลายเป็นขาดทุนบักโกรกได้ในพริบตาเลยนะครับ บางครั้งท่าเรือกับท่าอากาศยานมันห่างกันเป็น 100 กิโล ค่ารถขนส่งมันก็บานออกมาอีก ไหนจะค่าแก้ไขเอกสารและเวลาที่ต้องเสียไปอีก 1-2 วันแน่ ๆ สำหรับการเปลี่ยนวิธีขนส่ง ตอนจะเอาให้ทันอาจจะเซย์เยสกันได้แต่พอจะจ่ายเงินรับรองเป็นลมเลยนะครับ
2. ของเสร็จวันนี้ ขึ้นเรือวันนี้ ส่งออกมาเลยนะ
OMG! เรือคอนเทนเนอร์นะครับไม่ใช่สปีดโบทส่วนตัวจะได้สตาร์ทชึ่ง! แล้วแล่นออกมาเลย ก่อนที่ชิปเม้นนำเข้าส่งออกของคุณจะออกไปกับเรือนั้นขั้นตอนมีมากมาย เช่น ต้องคำนวนน้ำหนักของแต่ละตู้ก่อนยกขึ้นเรือ และทำเอกสารหลายตัว หลังจากบรรจุตู้แล้วต้องมีเวลาอย่างน้อยอีก 2 วัน เรือถึงจะออกนะครับ
3. เรือดีเลย์ได้ยังไงกัน?
ปัญหาส่วนใหญ่คือ นัดวันส่งของกับลูกค้าไปแล้ว พอเรือดีเลย์ขึ้นมาก็เลยเดือดร้อนกันไปทั้งขบวน ผู้ประกอบการที่พึ่งจะเริ่มต้นใหม่ ๆ จะไม่ค่อยเจอปัญหานี้เท่าไหร่ ยิ่งถ้าไม่ได้เริ่มนำเข้าส่งออกกันช่วงหน้ามรสุมด้วยแล้ว ก็อาจจะผ่านปัญหาเรือดีเลย์บ่อย ๆ ในหน้ามรสุมไปจนกว่าจะถึงรอบหน้าเลยละครับ แนะนำว่ามือใหม่ควรอ่าน 7 เรื่องแย่ ๆ ของการนำเข้าส่งออกที่เกิดขึ้นได้เสมอ ซักนิดนะครับ
4. เรือถึงวันนี้ ออกของวันนี้เลยนะคุณชิปปิ้ง!
เดี๋ยว ๆ ๆ …… ใจเย็นครับพี่น้อง! เรือถึงแล้ว จอดแล้ว ยกตู้ลงแล้วรึยัง? ถ้ายังมันก็ทำไม่ได้นะครับ แล้วถ้าเป็น LCL Shipment ต้องรอคิวเปิดตู้นะครับ คิวยาวแถมไปอยู่ท้าย ๆ หรือ ฝนตกหนัก ก็ออกของไม่ได้นะครับ
5. นอกจากภาษีนำเข้าแล้วยังมี VAT 7% อีกเหรอ?
เรื่องภาษีทำทุนหายกำไรหดกันมานักต่อนักแล้วนะครับ มือใหม่นำเข้าทุกคนควรอ่านเรื่อง วิธีคิดภาษีนำเข้าแบบง่ายก่อนที่จะนำเข้าอะไรก็ตามครับ
ส่วนใหญ่เรื่องแบบนี้จะเกิดกับมือใหม่นำเข้าส่งออก วิธีแก้ไขก็ต้องพยายามอย่ารีบและปรีกษาผู้ให้บริการขนส่งให้ดีว่าตารางเรือมันเป็นอย่างไร ในหนึ่งอาทิตย์มีเรือออกหลายวัน เครื่องบินมีออกทุกวัน หรือแม้กระทั่งรถก็มีทุกวัน ภาษีนำเข้าส่งออกคร่าว ๆ ก็คิดไม่ยากขอแค่รู้ว่าสินค้าคืออะไร การวางแผนจึงทำได้ง่ายกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าครับ
ที่มา : http://www.exptblog.com