จิ๊กซอว์ความสุข (บทความโดย..คุณKim)
สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า ความสุข เป็นสิ่งที่ทุกคนมองหา จริงๆ แล้วเจ้าตัวความสุขนี้ก็มีอยู่มากมายรอบๆ ตัวเรา เพียงแต่คนเราต่างหากที่มีแว่นตามุมมองที่แตกต่างกัน จึงทำให้ทุกคนมีความรู้สึกเป็นสุขไม่เท่ากัน เป็นทุกข์ไม่เหมือนกัน ถ้าเรารู้สึกว่ามองเห็นไม่ค่อยชัด เราก็สันนิษฐานไปก่อนว่าน่าจะเกี่ยวกับสายตา ก็ไปตัดแว่นสายตา จากนั้นก็จะหาข้อมูลร้านไหนดี แว่นแบบไหนสวยและทันสมัย กระจกเลนซ์ล่ะมีกี่แบบ แล้วแบบไหนเหมาะกับเรา ซึ่งโดยปกติเมื่อตัดแว่นใส่แล้วจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจน เลนซ์ที่ตามองผ่านเป็นตัวทำให้มองเห็นชัดขึ้น แล้วจิตใจของคนเราเล่าจะใช้อะไรมองผ่าน เพื่อให้มองเห็นสิ่งที่เรียกว่าความสุข
ฟังดูพิลึกสักหน่อยเพราะเป็นการเปรียบเปรย แต่เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ เมื่อเราพบว่าความสุขเล็กๆ เหล่านั้นเกิดขึ้นและมีอยู่จริงในชีวิตประจำวัน เพียงใช้จิตใจที่ฝึกและพัฒนาแล้วช่วยมองผ่าน ก็จะมองเห็นความสุขได้ไม่ยาก แล้วเราก็สามารถเก็บเกี่ยวและสะสมความสุขเล็กๆ เหล่านั้นไว้ เปรียบเสมือนเรามีตัวต่อจิ๊กซอว์ความสุขหลายๆ ตัว เมื่อนำมาต่อเข้าด้วยกันก็จะกลายเป็นเรื่องราวแห่งความสุข วันแห่งความสุข และภาพของคนที่มีความสุข
ทุกวันนี้เรามัวแต่มองหาความสุขกันโดยที่ไม่รู้ว่าความสุขเป็นอย่างไร ความสุขอยู่ที่ไหน เราก็จะไม่รู้วิธีที่จะมีความสุขได้เลย คนหลายคนน่าจะป็นคนที่มีความสุขที่สุดเพราะชีวิตมีความเพียบพร้อมไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ก็ยังสามารถบ่นเพราะหาความสุขไม่ได้ คนอีกหลายคนไม่น่าจะมีอะไรมากมายเท่า แต่ว่าชีวิตดูมีความสุขมากกว่าเสียอีก อย่างที่ทราบกันดีว่าในจิตใจคนเรานั้นมีพื้นที่ให้บรรจุความคิด ความรู้สึก สิ่งที่อยู่ในใจจะสะท้อนออกมาทางใบหน้า และคำพูด ทุกคนต่างชอบใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส คำพูดไพเราะน่าฟัง แล้วอะไรเล่าที่เป็นเงื่อนไขของความคิดดีๆ ความรู้สึกดีๆ ที่ทำให้ยิ้มแย้มออกมาได้ แล้วเรื่องเดียวกันนั่นก็ทำให้โกธร และทะเลาะกันได้ มันเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้กันมากเหลือเกินจนเกือบจะเป็นสิ่งเดียวกันระหว่างความสุขและความทุกข์ แล้วมันก็เป็นของคู่กันของมันอย่างนั้น รอให้เราเลือกข้างมันขึ้นมา อยู่ที่ว่าตัวเราจะเลือกอะไร
หันกลับมามองชีวิตประจำวันเพื่อเลือกเก็บตัวต่อจิ๊กซอว์ ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า ทันทีที่รู้สึกตัว ลองสูดลมหายใจให้กว้างๆ ยาวๆ เต็มๆ ซักสามครั้ง พร้อมใส่ความคิดในใจว่าเราพร้อมที่จะรับมือกับทุกอย่างที่เข้ามาในวันนี้ เชื่อหรือไม่เราได้สร้างพลังใจให้ตัวเราเองแล้ว และทั้งวันจะเกิดอะไรขึ้นก็จะสู้ ระหว่างทางไปทำงาน หันไปชื่นชมสิ่งรอบข้าง เห็นต้นไม้ดอกไม้ข้างทาง ก็รู้สึกถึงคุณค่าความงามและรู้สึกขอบคุณธรรมชาติที่มีให้เราชื่นชม การยิ้มอย่างจริงใจให้คนแปลกหน้า ก็ทำให้จิตใจเราอ่อนโยน การเอื้อเฟื้อทางให้คนข้ามถนนและรถคันอื่น เราได้แบ่งปันและมีน้ำใจ เจอรถติดหนักๆ ก็เปิดเพลงฟัง ร้องเพลงไปด้วย ถึงที่ทำงานก็ทักทายผู้พบเห็นอย่างมีอัธยาศัย ในการทำงานก็อาจมีเรื่องราวต่างๆ มากมาย ก็ถือเป็นหน้าที่เราที่จะต้องจัดการให้เรียบร้อย ให้บริการด้วยความจริงใจก็จะสามารถรักษาลูกค้าไว้ได้ ถ้าหนักหนาก็เอาตัวเองออกจากสภาวะนั้นก่อน หาตัวช่วยก็ได้ ระหว่างนั้นก็อย่าลืมที่จะสูดลมหายใจให้กว้างๆ ยาวๆ เต็มๆ อีกเพื่อเรียกพลัง แล้วสติกับความรู้สึกดีๆ จะกลับมา ในที่ทำงานก็อาจมีการเรี่ยไรเงิน กฐิน ผ้าป่า รับบริจาค ก็สามารถร่วมทำทานเป็นการเสียสละทรัพย์ส่วนตัว การพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานให้คำแนะนำดีๆ ก็เป็นความปราถนาดีให้เพื่อนสบายใจ ตอนเย็นกลับบ้าน ร่วมรับประทานอาหารกันพร้อมหน้า อาหารน่ารับประทานมาก ก็สามารถชื่นชมหน้าตาอาหาร ระหว่างนั้นก็อาจมีเรื่องราวดีๆ คำพูดดีๆ ให้แก่กัน ส่งเสริมกัน ก็จะทำให้เป็นการเพิ่มรสชาติอาหาร เมื่อเจริญอาหารก็จะมีร่างกายที่แข็งแรง พร้อมสุขภาพจิตที่ดี ตอนดื่มน้ำก็รู้สึกขอบคุณธรรมชาติ ขอบคุณประเทศชาติที่มีดินแดนอุดมสมบูรณ์ให้เรา ก่อนเข้านอนก็กราบพระ สวดมนต์เพื่อให้จิตใจสงบ นอนหลับสบายตลอดคืน
จะเห็นได้ว่ามีปัจจัยแห่งความสุขรายล้อมรอบตัวเราเต็มไปหมด ขึ้นอยู่ที่เงื่อนไขหลัก ที่พลิกตัวต่อจิ๊กซอว์เล็กๆ เหล่านั้น ให้เป็นจิ๊กซอว์ความสุขขึ้นมาได้นั่นก็คือวิธีคิดของตัวเราแต่ละคนนั่นเอง ถ้าหากมีคนทำทุกอย่างตรงข้ามกันหมด ตั้งแต่ตื่นนอน อารมณ์เสียจากการถูกปลุกเพราะตื่นเองไม่ไหว บ่นหัวเสียไม่อยากทำงานแต่ต้องไป ทะเลาะกับคนที่บ้านก่อนไปทำงาน ออกจากบ้านหันไปเห็นถังขยะก็บ่น เจอรถติดอีกก็ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ ขับรถปาดไปมาแล้วด่าทอตลอดเวลา ถึงที่ทำงานก็สายโดนเรียกเข้าไปตำหนิ ออกมาเจอเพื่อนร่วมงานพูดดีด้วยก็ฟังไม่รู้เรื่องแล้ว ทำงานเจอปัญหาก็ใช้อารมณ์และความรุนแรง แก้ปัญหาแต่ทำให้กลายเป็นปัญหาหนักเข้าไปอีก ลูกค้าหลุด ไม่อยากใช้บริการ เมื่อเพื่อนพนักงานเห็นก็ไม่กล้ามาชวนบริจาค ก็ไม่ได้ร่วมทำทาน ตกเย็นไม่อยากกลับบ้านเพราะจำได้ว่าเมื่อเช้านี้มีเรื่องทะเลาะค้างอยู่ ก็ขับรถออกไป เถรไถลจนดึกจึงกลับบ้าน เช้ามาตื่นไม่ไหวอีก ชีวิตทั้งวันช่างสะสมแต่ตัวต่อจิ๊กซอว์ปัญหาและความทุกข์ ซึ่งเลือกเก็บด้วยใจติดยึด
การดำเนินชีวิตในทุกวันนี้เราต้องเผชิญกับสิ่งต่างๆ มากมาย แต่ละวันเราอาจเก็บตัวต่อจิ๊กซอว์ที่ดีบ้างไม่ดีบ้าง สุขบ้างทุกข์บ้าง แต่ควรจะต้องมีตัวต่อจิ๊กซอว์ที่ดีมากกว่า ชีวิตจะได้ไม่ขาดทุนเพราะว่าหาความสุขได้ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่เหมือนกัน คนสองคนจะมีความแตกต่างกันได้ก็เพราะมีวิธีคิดที่ต่างกัน ใส่แว่นตามุมมองที่ไม่เหมือนกัน มีการสร้างเหตุและปัจจัยที่ต่างกัน ก็จะได้รับผลลัพธ์ที่ต่างกันด้วย ความต่างทั้งหลายทั้งปวงนี้มีจิตเราใจเราเป็นผู้เลือกเองทั้งสิ้น และแน่นอนเมื่อเรารู้ความต่างอยู่เพียงแค่พลิกวิธีคิด และฝึกที่จะเลือกอย่างรู้ทัน ความสุขก็หาได้ไม่ยาก เลือกเก็บตัวต่อจิ๊กซอว์ความสุข เพื่อมาต่อชีวิตจิตใจที่เหลืออยู่ของเราให้มีคุณค่าและมีความสุขทุกขณะให้ได้ แล้วบรรยากาศรอบตัวเราก็จะเต็มไปด้วยความสุข ไม่ต้องรอความสุขจากใครอีกต่อไป เพราะทุกคนจะสร้างตัวต่อจิ๊กซอว์ความสุขไปพร้อมๆ กัน
บทความจาก คุณ KIM ฐิติมา ตันติกุลสุนทร (General & Director Manager WICE Freight Services (Thailand) Co., Ltd.)